วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตามหา Passion กับงานที่รัก (1)

ห่างหายจากหน้า blog ไปนาน เพราะไปตามหาสิ่งๆ หนึ่ง
ไปตามหา Passion ในการทำงาน!!
มันสำคัญขนาดนั้เลยหรอ ไอ้ Passion เนี่ย!!

ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสดูหนังสารคดีเรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าใครมีโอกาสก็อยากให้ได้ดูกัน...

หนังเรื่องนั้นคือ Jiro Dreams of Sushi (จิโร่ เทพเจ้าซูชิ) เป็นเรื่องราวของจิโร่ โอโนะ วัยเกือบ 90 กับร้านซูชิเล็กๆ ขนาด 8-10 ที่นั่งใต้สถานีรถไฟใต้ดิน Ginza แต่เป็นร้านซูชิร้านแรกที่ได้รับเรท 3 ดาวจาก Michelin Guide!! และตัวจิโร่เองก็ได้รับยกย่องให้เป็น National Treasure จากรัฐบาลญี่ปุ่น!!

แค่ประโยคขึ้นต้นของเรื่อง ก็ทำเอาคนฟังสะอึก!!
"เมื่อเราตัดสินใจว่าจะทำอาชีพอะไร เราก็ต้องอุทิศตัวให้กับมัน เราต้องรักงานที่เราทำ แล้วเราจะทำมันได้ดี เราต้องไม่บ่นงานที่เราทำ ถ้าบ่นก็คือเรายังรักมันไม่พอ เราต้องอุทิศชีวิตเพื่อพัฒนาฝีมือ มุ่งมั่นที่จะทำให้ดีขึ้น นั่นแหละคือเคล็ดลับความสำเร็จ มั่นง่ายๆ แค่นั้น และเป็นกุญแจสู่การได้รับการยอมรับอย่างที่ผมเป็นอยู่ทุกวันนี้"
ตลอด 1 ชั่วโมง 22 นาที  หนังได้แสดงให้เห็นถึงความรักในงานและความทุ่มเทให้กับซูชิของจิโร่...
"เราไม่สนเรื่องเงินหรอก เงินทองเป็นเรื่องรอง... 
ผมสนแค่ว่า เราจะทำซูชิให้ดีขึ้นยังไง ผมทำในสิ่งเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ค่อยๆ พัฒนาไปทีละนิด ผมอยากจะทำให้ได้มากกว่านี้อยู่เสมอ ผมจะปีนต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ถึงยอด แต่ไม่มีใครรู้ว่ายอดอยู่ที่ไหน... 
ถึงผมจะทำงานมาหลายสิบปี ผมก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำสมบูรณ์แบบแล้ว... 
ผมรู้สึกมีความสุขตลอดทั้งวัน ผมชอบทำซูชิ นั่นคือจิตวิณญาณของโชกุนิน.. 
จะเลิกทำเมื่อไหร่น่ะหรอ กับงานที่ทุ่มเทมาก หนักขนาดนี้น่ะหรอ ผมไม่เคยเกลียดงานนี้เลยแม้แต่สักครั้ง ผมบอกได้ว่าผมรักในงานของผมและทุ่มเทชีวิตของผมให้กับงานนี้อย่างเต็มที่จริงๆ แม้ว่าผมจะอายุ 85 แล้วก็ตาม ผมไม่รู้สึกอยากเกษียณตัวเองเลยสักครั้ง ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมจะทำไปเรื่อยๆ..."
ไม่แปลกใจว่าทำไมจิโร่ถึงได้ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้
เพราะคนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนรักในสิ่งที่ตนทำ มีเป้าหมายชัดเจน
และเขารู้ว่าเขาเกิดมาเพื่ออะไร!!

เมื่อดูหนังจบ เท็นถึงกับกลับมาทบทวนตัวเอง...
เรารักสิ่งที่เราทำแบบที่จิโร่รักหรือเปล่า...
แล้วงานอะไรที่เราอยู่กับมันได้ทุกวันโดยไม่มีวันเบื่อ...


ภารกิจการตามหา Passion ของเท็นจะเป็นยังไงต่อไป ติดตามได้ในบทความฉบับหน้านะคะ ^_^

ป.ล. ถ้าดูหนังเรื่องนี้แล้วหิว ก็อย่าว่ากันน้าาาา >..<

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วันนี้คุณส่องกระจกหรือยัง

เมื่ออาทิตย์ก่อนนู้นได้มีโอกาสไปร่วมมิสซารอบ 10.00 น. ที่วัดเซนต์หลุยส์
คุณพ่อที่ทำพิธีในวันนี้เท็นไม่รู้จัก (พยายามหาชื่อก็ไม่เจอ ขออภัยจริงๆ ค่ะ ^^")
แต่ประทับใจที่ท่านเทศน์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สนุกร่าเริงแฝงอารมณ์ขัน

คำพูดของคุณพ่อที่เท็นประทับใจเป็นพิเศษ มีอยู่ว่า...
แต่ละวันที่คุณตื่นขึ้นมา คุณส่องกระจกกันบ้างหรือเปล่า?

บางคนบอกว่าไม่ค่อยชอบส่อง เพราะรู้สึกว่าตัวเองขี้เหร่ น่าเกลียด สวยสู้อั้ม พัชราภาไม่ได้!!

คุณพ่อบอกว่า คิดแบบนี้เท่ากับดูถูกสิ่งที่พระเจ้าให้มา
เพราะพระเป็นเจ้าได้ทรงมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา
ฉะนั้น เราจึงเป็นสิ่งที่สวยที่สุด ดีที่สุด และน่าภาคภูมิใจที่สุดในสายตาของพระองค์


และไม่ว่าตอนนี้เราจะเป็นยังไง พระองค์ก็ทรงรักเราในแบบที่เราเป็น...
ไม่เชื่อ...ลองถามพ่อแม่ของเราดูสิ...
ลูกจะดี ชั่ว สำเร็จ ล้มเหลว พ่อแม่ก็ยังคงรักและเห็นลูกเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอ...

ดังนั้น...จงรักตัวเอง และภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น

เคล็ดลับการส่องกระจก ยิ่งส่อง ยิ่งสวย
(โดยคุณเปรม นุวัติวงศ์ ประเสริฐสังข์ นักชำนาญการปรับระบบความคิดและจิตใต้สำนึก)

ตื่นเช้ามา ส่องกระจก มองตาตัวเอง ยิ้มค้างไว้ 20 วินาที
ชื่นชมความน่ารักและสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ในตัวเอง...
แล้วบอกกับตัวเองว่า "วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดของฉัน"
ทำติดต่อกัน 21 วัน แล้วมาดูซิว่า...

การเริ่มต้นวันที่ดีด้วยการ "คิดบวก" จะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปอย่างไร  :)