วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เมื่อลักษณ์ของฉันทำงานตอนสมัครเรียนคลาส อ.ธนา

เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) ฉันส่งใบสมัครเรียนคลาส อ.ธนา ทันเวลา deadline พอดี

อันที่จริง การเปิดรับสมัครคลาส อ.ธนา เริ่มมาตั้งแต่เดือนธันวาปีที่แล้ว
โดยเปลี่ยนเงื่อนไขการรับสมัคร จากเดิมที่ "ใครเร็วใครได้"
เป็นการตอบ "ข้อสอบ" แล้วคัดเหลือแค่ลักษณ์ละ 3 คน!!

เงื่อนไขใหม่นี้ ทำให้ลักษณ์ฉันทำงานอย่างหนัก
สิ่งที่กลัวที่สุดอันดับแรก คือ "กลัวล้มเหลว"
ถ้าฉันส่งข้อสอบไป แล้วไม่ได้ถูกเลือก
ฉันต้องเสียใจมาก รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่ดีพอแน่ๆ
(เพราะถ้าดีจริง ฉันต้องได้รับเลือก!!)

อย่ากระนั้นเลย ไม่ส่งดีกว่า จะได้ไม่เจ็บปวด...

แต่ถ้าไม่ส่งเลย จะเป็นการตัดโอกาสตัวเองหรือเปล่านะ
ถ้าจะส่ง จะเขียนคำตอบอย่างไรดี ให้ออกมาดีที่สุด ถูกใจ อ.ธนาที่สุด เพื่อที่เราจะได้รับเลือก

คิดไม่ออก เครียด ไม่รู้เว้ย!!

แล้วความคิดของฉันก็สลับไปสลับมาแบบนี้ ส่ง ไม่ส่ง ส่ง ไม่ส่ง...
ถ้าส่งแล้วจะเขียนยังไง ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลามานั่งเขียนคำตอบให้มันดีๆ เลยนะ
ไม่ส่งดีกว่า ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากเสียใจ ไม่อยากรู้สึกด้อย
และส่วนตัวก็ไม่ชอบการแข่งขันในสนามที่ตัวเองรู้สึกว่ามีสิทธิ์จะ "แพ้" สูง
มันเป็นการเดิมพันกับอะไรก็ไม่รู้ที่เสี่ยงต่อความรู้สึก
ความคิดของฉันจึงโน้มเอียงไปทาง "ไม่ส่ง" มากกว่ามากๆ

จนมาถึงเมื่อวานซืน (30 ม.ค.) วันรองสุดท้ายก่อน deadline
ฉันโทรไปเตือนน้องคนหนึ่งเรื่องส่งข้อสอบ อ.ธนา

และสุดท้าย...ฉันก็ตัดสินใจที่จะเขียนข้อสอบส่งเสียเอง!!

ให้โอกาสคนอื่น แล้วทำไมไม่ให้โอกาสตัวเองล่ะ
ถ้าส่ง...โอกาสยัง 50-50
ถ้าไม่ส่ง...โอกาสเป็น 0

เมื่อเริ่มตอบข้อสอบ ฉันบอกตัวเองว่า
ฉันจะเขียนอย่างเป็นตัวเองที่สุด และจริงใจกับตัวเองที่สุด
ไม่ต้องสนใจหรอกว่ามันจะดีพอหรือเปล่า
หรือคนอื่นจะมองยังไงกับการตอบของเรา เราจะดูโง่ไหม หรือดูอวดไปไหม
"เป็นตัวของตัวเอง" นั่นคือ โอเคแล้ว
นั่นทำให้ฉันปล่อยวางได้มาก...

และก็เป็นเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา...
ความกลัวของฉันหายไป เมื่อฉันเริ่ม "ลงมือทำ"


ช่วงเวลาที่ฉันนั่งตอบข้อสอบ (แค่นั่งตอบข้อสอบเท่านั้น ยังไม่ได้ส่ง) ฉันก็ถือว่าคุ้มค่ามากแล้ว!!
ไม่ใช่แค่เรื่องการได้เอาชนะตัวเองเท่านั้น
แต่ข้อสอบของอาจารย์ทำให้ฉันได้มีโอกาสกลับมาทบทวนตัวเองอย่างมาก

การได้ให้คนลักษณ์ 4 อย่างฉันได้มองเห็นสิ่งดีๆ
ทั้งจากเส้นทางการเติบโตในอดีต และสิ่งที่อยากเห็นตัวเองในอนาคต
มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากนะ!!
อย่างน้อยก็ทำให้ฉันรู้สึกว่า เออ ที่ผ่านมา เราก็มีการทำงานกับตัวเองพอสมควร
และมันก็เปลี่ยนตัวฉันไปในทางที่ดีขึ้นจริงๆ ไม่ได้ย่ำอยู่ที่เดิมขนาดนั้น

และเพราะความเป็นลักษณ์ ทำให้เราโฟกัสแต่ส่วนที่บกพร่องหรือขาดหายไปเสมอ
ฉันก็มักจะบอกตัวเองว่า ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้้นกว่านี้อีก ตรงนี้ยังใช้ไม่ได้เลยนะ
แต่ไม่เคยคิดหรอกว่า ดีแล้วจะไปไหน ดีแล้วจะเป็นอย่างไร ^^"
ฉะนั้น เวลามีคนถามว่า "เท็นจะเห็นตัวเองเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไร"
ฉันก็มักจะงงๆ เอ๋อๆ เสมอ ทั้งๆ ที่มันเป็นคำถามที่ "สำคัญมากๆ" ต่อการเติบโตของคนคนหนึ่ง
และด้วยความเป็นลักษณ์หรืออะไรก็ตามแต่
ที่ทำให้สมองของคนเรา เลือกที่จะจดจำแค่บางสิ่งบางอย่าง
สิ่งนี้ สมองของฉัน มันไม่เคยจะจำได้เลยจริงๆๆๆ!! ทั้งๆ ที่ถูกถามมามากกว่า 1 ครั้ง

ก็หวังว่าครั้งนี้จะจำได้สักทีนะ ^^"

สุดท้ายฉันจะได้หรือไม่ก็ตามแต่ แต่ฉันก็พอใจในตัวเองมากแล้ว <3
และสิ่งที่ฉันเขียนมาตั้งแต่ต้นจนถึงตรงนี้
อันที่จริง ความเป็นลักษณ์ของฉันไม่ได้ทำงานแค่เรื่องข้อสอบ อ.นั้นเท่านั้นหรอก
มันยังทำงานในมิติอื่นๆ ของชีวิตด้วย
เหตุการณ์เล็กๆ นี้ มันได้สะท้อนให้ฉันมองเห็นตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
มองเห็นว่ากลไกชุดนี้ทำงานอย่างไร กับเหตุการณ์ที่ใหญ่กว่า แล้วมันขัดขวางฉันอย่างไร

บทเรียนสำคัญที่ฉันได้รับคือ...
แค่ "เป็นตัวของตัวเอง" มันก็ดีที่สุดแล้ว ^_^




Google+: https://plus.google.com/109907586945597973785

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น