วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บันทึกการสังเกตตัวเอง: นพลักษณ์กับการปฏิบัติธรรม วันที่ 3 (7 ธ.ค. 2015)

วันนี้ยังคงทำงานกับตัวเองเรื่อง "ความพยายาม" และ "การยอมรับ" เช่นเคย ช่วงเช้าก่อนบรรยายฉันเห็นลักษณ์ตัวเองทำงานหนักมากจนข้างในฉันรู้สึกอึดอัด

หลายๆ ครั้งที่ฉันจะลอง "ปล่อย" แต่มันก็จะมีความรู้สึกบางอย่างถูกขับดันขึ้นมา จนฉันปล่อยไม่ได้ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร...

จน 9.00 น. เริ่มธรรมบรรยาย อาจารย์ได้กล่าวถึงอุปมาเกี่ยวกับนิวรณ์อีกบทหนึ่งที่ปรากฏในพระสูตร และได้เพิ่ม "พยายาม" เป็นนิวรณ์ตัวที่ 7 จากการที่ได้คุยกับลักษณ์ 4 เมื่อวานนี้

อุปมาในพระสูตรกล่าวถึงว่า ถ้านิวรณ์ต่อไปนี้ถูกละได้โดยสมาธิ จะเข้าถึงสภาพตามอุปมาเหล่านี้...

กามฉันทะ -- เหมือนคนเคยกู้เงิน แล้วใช้หนี้หมด แล้วมีเงินเหลือ จะรู้สึกอย่างไร
พยาบาท -- เหมือนเราเป็นโรคอะไรสักอย่าง เมื่อหายจากโรค จะรู้สึกอย่างไร
ถีนมิทธะ -- เหมือนคนเคยติดคุก เมื่ออกจากคุก แล้วยังมีทรัพย์สินอยู่ จะรู้สึกอย่างไร
อุทธัจจะกุกกุจจะ -- ทาสที่ถูกปลดปล่อย รู้สึกอย่างไร ความเป็นนายเหนือตัวเอง ไม่มีใครบังคับเรา แม้แต่สามีภรรยา
วิจิกิจฉา -- พ่อค้าขายของในดินแดนทุรกันดาร มีโจร ต้องระแวดระวัง กลัวของหาย จะถึงที่หมายอย่างปลอดภัยไหม แต่พอไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ไม่เสียหาย รู้สึกสบายใจอย่างไร

นิวรณ์ที่เพิ่มขึ้นมาอีก 2 ตัว อาจารย์อุปมาดังนี้

ละอาย -- เหมือนต้องเดินตลาดโดยไม่มีเสื้อผ้า แล้วมีคนให้เสื้อผ้าเรา และเราได้สวมใส่ เดินโดยไม่ต้องอายใครจะรู้สึกยังไง
พยายาม (หมายถึง บังคับให้เป็นดังใจเรา) -- เหมือนต้องวิ่งขึ้นเขาที่ไม่มีวันจบ ขึ้นไปๆ เรื่อยๆ มันก็เหนื่อย ต้องฝืนใจวิ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะได้หยุดพัก เพราะรู้ตัวว่าวิ่งไปก็ป่วยการ

ข้อสุดท้ายเนี่ยแหละที่โดนใจฉันมากที่สุด "การวิ่งขึ้นเขาโดยไม่มีวันจบ" สำหรับฉันมันเศร้าเอามากๆ เวลาที่มีคนพูดถึงในทำนองว่า "การเติบโตเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด" มันทำให้ฉันท้อ เพราะฉันอยากให้มันจบบริบูรณ์ ไม่อยากเหนื่อยอีกแล้ว

มันคงเป็นเรื่องของอุดมคติ เป้าหมาย และความสำเร็จ ซึ่งถึงตอนนี้คงได้แต่ทำใจ...

อีกสิ่งหนึ่งที่อาจารย์ฝากไว้คือเรื่อง "การกิน" โดยอาจารย์ได้ทดลองตั้งคำถามสำหรับแต่ละลักษณ์ดังนี้ (ซึ่งจะพิจารณาตามปีกก็ได้)

ลักษณ์ 1 -- กินอย่างไรจะอร่อยตามธรรมชาติ (ไม่ต้องอร่อยปรุงแต่ง)
ลักษณ์ 2 -- กินอย่างไรจะเป็นการดูแลตัวเอง (เมตตาตัวเอง)
ลักษณ์ 3 -- กินอย่างไรไม่เป็นเป้าหมาย ธุระ งาน
ลักษณ์ 4 -- กินอย่างไรธรรมดาๆ
ลักษณ์ 5 -- กินอย่างไรไม่ขี้เหนียว ประหยัด
ลักษณ์ 6 -- กินอย่างไรจะไม่ป้องกันตัว
ลักษณ์ 7 -- กินอย่างไรโดยไม่ตะกละ
ลักษณ์ 8 -- กินอย่างไรโดยไม่กำหนัด เว่อร์ สุดโต่ง
ลักษณ์ 9 -- กินอย่างไรโดยไม่มึนเมา (narcotization)

หลังจบชั่วโมงธรรมบรรยาย ฉันเอาอุปมาเรื่องการวิ่งขึ้นเขามาเป็นหัวข้อพิจารณาใคร่ครวญในการภาวนา และปรับหัวข้อเรื่องการกินเป็น "ภาวนาอย่างไรธรรมดาๆ" หรือ "เชิญระฆังสติอย่างไรธรรมดาๆ" เพราะฉันเห็นตัวเองอย่างชัดเจนเวลาเชิญระฆัง ว่าฉันหวังผล "เลิศ" เสมอ และในการภาวนาก็เช่นกัน

ถึงตอนนี้ฉันถึงได้เข้าใจว่า "ความรู้สึกที่ถูกขับดันขึ้นมา" โดยที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันคือสิ่งนี้!!
มันเหมือน "แส้" ที่เฆี่ยนม้า เพื่อให้มันห้อไปถึงปลายทางให้เร็วที่สุด
แต่ปลายทางที่เราคิดว่ามีอยู่จริง กลับไม่มีอยู่

เวลาที่ความรู้สึกนี้ดันขึ้นมา ฉันจึงบอกตัวเองว่า มันคือการพักผ่อน ไม่ต้องวิ่งไปไหน
และเตือนตัวเองด้วยคำถามว่า "นั่งอย่างไรธรรมดาๆ"
มันช่วยได้เยอะมากเหมือนกัน ^_^


พระอาทิตย์ตกดิน วันที่ 7 ธ.ค 2015

FB Fanpage: https://www.facebook.com/tenravipanblog/
Blogger: http://tenravipan.blogspot.com/
Twitter: https://twitter.com/tenravipan

Google+: https://plus.google.com/109907586945597973785

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น