ฉันเลยบอกตัวเองว่า "เออ โกรธไปเลย เอาซะให้พอ"
เออ มันหยุดเว่ย!!
จิตใจคนเรานี่ก็ช่างประหลาดนัก!!
ก็เลยลองใช้มุกนี้กับการภาวนาด้วย ซึ่งก็พบว่ามันไม่เลว...
สิ่งที่ฉันค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเอง 2 ข้อ คือ
1. ฉันเห็นอาการ "หวง" ภาพลักษณ์บางอย่างของฉัน เช่น กลัวคนมองไม่ดี (แต่แน่นอน การแก้ด้วยการบอกตัวเองว่า "ฉันต้องเลิกแคร์ภาพลักษณ์ " ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง)
2. เวลาที่ฉันสังเกตนก ผีเสื้อ สุนัข มด ผึ้ง ฯลฯในป่า ฉันรู้สึกเหมือนดูหนังสารคดีชีวิตสัตว์โลก ฉันรู้สึกว่าชีวิตของพวกมันดูความสุขและเบิกบาน
ฉันตั้งคำถามว่า ทำไมฉันถึงไม่เคยมองสิ่งเหล่านี้ในแง่ลบ (เช่น ชีวิตพวกมันน่าเบื่อ) หรือกลางๆ เลย ฉันเดาว่า "ความอิจฉา" ซึ่งเป็นกิเลสประจำลักษณ์ของฉันกำลังทำงานอยู่ "พวกมันดูมีความสุขกว่าฉัน"
คำถามบน panel
(ถามเหมือนกันทุกลักษณ์ แต่ตอนอยู่บน panel ไม่ได้ตอบละเอียดขนาดนี้ เพราะ panel ศูนย์ใจคนเยอะมาก ^^")
(ถามเหมือนกันทุกลักษณ์ แต่ตอนอยู่บน panel ไม่ได้ตอบละเอียดขนาดนี้ เพราะ panel ศูนย์ใจคนเยอะมาก ^^")
1. เมื่อเราภาวนาอยู่จะมีอะไรรบกวนการภาวนา
- ส่วนใหญ่เป็น "พยายาม" (มีละอายและหงุดหงิดตัวเองซ่อนอยู่ด้วย) กับ "ฟุ้งซ่าน" ฟุ้งซ่านกับเรื่องของอดีตและอนาคต ทั้งจริงและไม่จริง รูปธรรมและนามธรรม
รูปธรรม -- เหตุการณ์ เพลง ละคร รายการที่ชอบ มาพร้อมทั้งภาพ เสียง ความรู้สึก ช่วงแรกก็จะนึกถึงรายการที่อยากดู มีดราม่าเยอะ แต่พอหลัง panel ลักษณ์ 3 (panel แรก) ก็มาคิดถึง panel เป็นหลัก โดยมาคิดว่า เอ๊ะ เราจะตอบว่ายังไงดี แล้วก็จะ pop up มาเป็นฉากๆ มีทั้งสนุก ตลก เสียใจ ร้องไห้ ทะเลาะกันก็มี แต่ไม่มีแบบอารมณ์ธรรมดาๆ แบบของจริง
นามธรรม -- มาเป็นอารมณ์ความรู้สึก เช่น ตื่นเต้น กลัว เศร้า กดดันตัวเอง หรืออาการคล้ายๆ เคี่ยวเข็ญตัวเอง ผลักตัวเองให้ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ หรืออาการคล้ายๆ เร่งรีบ ทั้งหมดน่าจะมาจากอนุสัยของเรา
(เรื่อง "พยายาม" อาจารย์ได้ตอบว่า
เป็นเพราะ "ใจ" ไม่เชื่อมั่นในสมรรถภาพทาง "ใจ"
พลังของศูนย์เราเองที่เราใช้บ่อยๆ แต่เรากลับไม่เชื่อมั่นในมัน)
2. รู้ตัวได้อย่างไรว่าหลุดจากสมาธิ
- เวลาพยายามมากๆ จะรู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะที่ช่วงท้อง เหนื่อย เครียด ปวดหัว คลื่นไส้ บางทีข้างในร้อนๆ หายใจสั้น บางทีหายใจแรงเพราะตั้งใจมากไป
- ถ้าฟุ้งซ่านพอมันคลุกเคล้ากับอารมณ์จนเยอะ หรือบางทีก็ตัวเอนไปข้างหน้า ข้างหลัง ข้างๆ ถึงขั้นหงายหลังหรือสะดุ้งเลยก็มี (อาจารย์บอกว่า ถ้าตัวเอน แปลว่า สติหลุดจากตัวไปแล้ว)
3. จะกลับมาเร็วขึ้นได้อย่างไร
- 1) "รู้"
- 2) ใช้ app ระฆังสติช่วย ให้มันดังทุกๆ 5 นาทีระหว่างนั่งสมาธิ
- 2) ใช้ app ระฆังสติช่วย ให้มันดังทุกๆ 5 นาทีระหว่างนั่งสมาธิ
4. สิ่งเหล่านี้อ่อนกำลังลงหรือหายไปยังไงบ้าง
- ใช้หลายวิธี เช่น ถามตัวเองว่า "นั่งแบบธรรมดาๆ ได้ไหม" "นั่งแบบไม่มีเป้า ไม่เป็นงาน ไม่ต้องสำเร็จได้ไหม" หรือใช้วิธีอยากคิดคิดไป ปรากฏมันเลิกคิด หรือเดินจงกรมให้สนุก พอสนุก เราก็จะมีสมาธิกับสิ่งที่เราทำ
5. เมื่อสมาธิดี ไม่มีอะไรรบกวน (หรือรบกวนน้อยมาก) รู้สึกอย่างไร เคยเจอไหม
- ถ้าเดินจงกรมได้ดี จะรู้สึกว่าหนักแน่น นิ่ง มั่นคงในตัวเอง เหมือนยืมพลังจากพื้นดินมา
- ถ้านั่งสมาธิดีๆ จะรู้สึกสงบ fullfill อ่อนโยน เป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง โดยเฉพาะเวลาเมตตาภาวนาจะชอบมาก เพราะเหมือนเราได้ส่งพลังความรัก ความอ่อนโยน ไปข้างนอกได้ด้วย ถ้าทำสมาธิปกติจะรู้สึกคล้ายๆ กัน แต่ไม่แรงเท่า ตอนที่ภาวนา "อากาศ" จะไม่มีความรู้สึกเหล่านี้ แต่จะรู้สึกเหมือนไม่มีตัวเรา อนัตตา
พอตอบข้อสุดท้ายได้ ฉันถึงได้เข้าใจที่อาจารย์ได้บอกก่อนหน้านี้ไว้ว่า
"เรานั่งสมาธิเพื่อพบคุณค่าของชีวิตโดยที่ไม่ต้องขึ้นกับสังคม"
มันเป็นอย่างไร... ^__^
FB Fanpage: https://www.facebook.com/tenravipanblog/
Blogger: http://tenravipan.blogspot.com/
Twitter: https://twitter.com/tenravipan
Google+: https://plus.google.com/109907586945597973785
พระอาทิตย์ตกดิน วันที่ 11 ธ.ค 2015 |
FB Fanpage: https://www.facebook.com/tenravipanblog/
Blogger: http://tenravipan.blogspot.com/
Twitter: https://twitter.com/tenravipan
Google+: https://plus.google.com/109907586945597973785
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น