วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บันทึกการสังเกตตัวเอง: นพลักษณ์กับการปฏิบัติธรรม วันที่ 4 (8 ธ.ค. 2015)

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ อาจารย์นำภาวนาด้วยบทการให้อภัย (ซึ่งฉันไม่ได้จดไว้ เพราะไม่อิน) ทำให้ฉันไปรือฟื้นถึงคนที่ฉันยังให้อภัยไม่ได้อีกครั้ง และยังเป็นประเด็นมาจนถึงวันนี้

ช่วงเช้า อาจารย์นำภาวนาว่าด้วยกายานุปัสสนา ฉันตามอาจารย์ไม่ค่อยได้ เพราะความโกรธแค้นที่สั่งสมเอาไว้ ไม่สามารถทำให้ฉันหายใจลึกหรือผ่อนคลายได้ แต่จะดีกว่าวันก่อนๆ ตรงที่ เวลาที่ฉันบอกตัวเองว่า

"นั่งแบบธรรมดาๆ ได้ไหม"
"นั่งแบบไม่มีเป้าได้ไหม"
"นั่งแบบไม่ใช่พันธกิจได้ไหม"

แม้มันจะได้เป็นพักๆ แวบๆ พอมันจะได้ มันก็จะมีเสียงเข้ามาว่า ต้องจัดการความเกลียดก้อนนั้นให้เรียบร้อยก่อน ไม่เช่นนนั้นจะ บลาๆๆๆ แล้วก็วกกลับมาใหม่ วนเวียนอยู่เช่นนี้

แต่เอาวะ ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย...
และมันก็กลายเป็นความตั้งใจว่า ก่อนกลับกรุงเทพฯทฉันจะต้องให้อภัยให้ได้!!!

ช่วงธรรมบรรยาย อาจารย์กล่าวถึง "การปฏิบัติต่อนิวรณ์" มีทั้งที่เป็นปัจจุบันและระยะยาวต่อเนื่องหลายปี นิวรณ์เกิดจากอนุสัย (ความเคยชินที่นอนเนื่องในสันดาน) ที่โผล่ขึ้นมากจากภายในตัวเรา ยังไม่มีทิศทางหรือเหยื่อ เมื่อโผล่ขึ้นมาแล้ว ก็จะหาเหยื่อ แล้วไปเกาะติด และจะรุกหนักขึ้นจนเป็นกิเลส ถ้าปฏิบัติสมาธิจะช่วยให้เบาขึ้นได้ ไม่เป็นกิเลสเต็มรูป (กิเลสแบบตัว ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ นิวรณ์จัดเป็นเพียงกิเลสครึ่งรูปเท่านั้น) ถ้าเป็นกิเลสเต็มรูป แปลว่า สติแตก ^^"

ถ้านิวรณ์รบกวน...

1. จัดการปรับปรุงสมาธิ ไม่ต้องจัดการกับนิวรณ์โดยตรง ถ้ามีสติมากพอ มีสมาธิที่ดีคือบริสุทธิ์ แจ่มใส ว่องไว ไม่มีเรา ไม่มีมลทิน อะไรๆ กระทบกระทั่งไม่ได้ กลมกลืน บูรณาการ เป็นเอกภาพ เราต้องพยายามปรับปรุงให้สมาธิสมดุล สงบ แต่เป็นความพยายามแบบไม่ดื้อ ไม่บังคับ ไม่คาดหวัง สมดุลกับพลัง แจ่มใส ไม่ต้องอร่อยกับพลังตื่นเต้น (เช่นลักษณ์ 3 7 8) ต้องศึกษาว่าไม่สมดุลยังไง การศึกษานพลักษณ์ก็ช่วยได้

2. ถ้านิวรณ์เข้มข้นและกำลังจะเป็นกิเลส ให้หาคุณธรรมหรือกุศลธรรมที่ตรงข้ามกับนิวรณ์ที่รบกวน เช่น

กามฉันทะ -- ใชความเรียบง่ายและสันโดษ
พยาบาท -- ใช้เมตตาหรือให้อภัย
ถีนมิทธะ -- ใช้บทภาวนาแสงจันทร์ รู้สึกว่าตัวเองเป็นพระจันทร์ที่มีแสงเย็นๆ นวลตา (ไม่ได้จดไว้ เลยจำไม่ได้หมด ^^")
อุทธัจจะกุกกุจจะ -- ใช้บทภาวนาภูเขา รู้สึกว่าตัวเองเป็นภูเขาที่มีความหนักแน่น  (ไม่ได้จดไว้ เลยจำไม่ได้หมด ^^")
วิจิกิจฉา -- ใช้ความเชื่อมั่น
ละอาย -- ยอมรับและรักตัวเอง ไม่มองตัวเองว่าน่าเกลียด ผิด ใช้ไม่ได้ ฝึกจนกว่าจะ "หมดตัวเอง" ไม่มีตัวเอง ก็ไม่มีอับอาย อย่างไรก็ดี แรงเฉื่อยของตัวกูของกูก็จะขึ้นมาบ่อยๆ เนืองๆ
พยายาม -- ใช้หลักแบบเซน ทำเหมือนไม่ทำ ไม่ทำเหมือนทำ ปฏิบัติเหมือนไม่ปฏิบัติ

อาจารย์ให้เลือกนิวรณ์ตัวหลักๆ ของเราขึ้นมาฝึก ถ้าฝึกจนคล่องก็จะสนุก

ถ้าอนุสัยยังอยู่ นิวรณ์จะออกมาเป็นครั้งเป็นคราว ถ้าโกดังของอนุสัยใหญ่ นิวรณ์ก็จะออกมาบ่อยๆ ต้องทำให้โกดังเล็กลงเรื่อยๆ จากโกดังเหบือแค่บ้าน จากบ้านเหลือแค่โอ่ง

ทำยังไง?

1. อย่าเพิ่งเอาอะไรไปฝากเศษกิเลสอีก ฝึกปฏิบัติคุณธรรม เพื่อไม่ฝากอะไรในโกดังเพิ่ม โดยธรรมชาติจะมีหนูมาช่วยเอาอะไรไปทีละน้อย ซึ่งจะช่วยให้โกดังเล็กลง

2. สร้างบารมีให้แก่กล้า (ที่อาจเนื่องกับลักษณ์) เราไม่สามารถ "ตั้งใจ" สร้างบารมีได้ ถ้าตั้งใจจะตกร่องลักษณ์ ไม่ใช่บารมีที่บริสุทธิ์ สร้างบารมีในที่นี้คือผ่อนคลายหรืออยู่กับกิเลสและความคิดยึดติดได้ ถ้าบารมีแข็งแรง มีพลัง ก็จะฝากเศษกิเลสในโกดังน้อยลง ถ้าไม่มีตัวกูของกู บารมีจะยิ่งงอกงาม ถ้ายังมีตัวกู ก็อย่าปฏิบัติอย่างเห็นแก่ตัว แบ่งปันประโยชน์ให้สรรพสัตว์

การปฏิบัติภาวนา เหมือนการทำวิจัยและสืบสวน 4 ประเด็น คือ

1. ทุกข์เป็นอย่างไร (นิวรณ์ ตัวกู กิเลส ลักษณ์ ความรู้สึกทุกข์)
2. ทุกข์เกิดขึ้นอย่างไร (อะไรเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดทุกข์ เราศึกษาลักษณ์เพื่อไม่ให้ลักษณ์ทำให้เราทุกข์)
3. ทุกข์ดับอย่างไร (ทุกข์เกิดเมื่อไหร่ ดับลงที่นี่ได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องอนาคต ทุกข์เกิดที่ไหน ดับที่นั่น นิโรธ จริงๆ แปลว่า ไม่ให้มันเกิด ถ้ามันเกิด ปล่อยวางเหตุปัจจัย มันก็ดับเอง)
4. จะมีชีวิต อยู่ หากิน พูดคุย มีสามีภรรยาพี่น้องญาติอย่างไรจึงไม่ทุกข์ // ไม่ก่อให้เกิดเป็น "ตัวกู" จนเป็นทุกข์

"ทุกข์ดับลงที่นี่ ไม่ใช่เรื่องของอนาคต" เป็นประโยคที่โดนใจฉันที่สุด ความ "พยายาม" บีบบังคับตัวเองให้ให้อภัยได้ในเร็ววัน เป็นเพราะฉันกลัวและกังวลกับเรื่องที่เป็น "อนาคต" ทั้งสิ้น

ในพระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า...

"เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว" (มัทธิว 6:34)

มันก็จริงนะ...

สุดท้ายก็ "ยอมรับ" ว่า ตอนนี้ยังทำไม่ได้ ก็คือ "ไม่ได้" ไม่เป็นไร...
ไม่ต้อง force ตัวเอง ไม่ต้องมีเป้า ไม่ต้องสำเร็จ

ปิดท้ายด้วยคำกล่าวของท่านพุทธทาส ที่ อ.สันติกโร ยกขึ้นมาในวันนี้
"ธรรมะจะง่ายถ้าไม่มีคน"
ฉันแอบกล่าวต่อในใจเงียบๆ ว่า
"ชีวิตจะง่ายถ้าไม่มีลักษณ์" :P



พระอาทิตย์ตกดิน วันที่ 8 ธ.ค 2015

FB Fanpage: https://www.facebook.com/tenravipanblog/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น